ขนมเกาหลีที่หลายคนหวีด No Brand นี่หรอคือชื่อแบรนด์ นอกจากจะถูกและดี แต่ดีกรีเค้าไม่ธรรมดา !

avatar writer
โดย : imnat
avatar writer20 ธ.ค. 2566 avatar writer1.0 K
ขนมเกาหลีที่หลายคนหวีด No Brand นี่หรอคือชื่อแบรนด์ นอกจากจะถูกและดี แต่ดีกรีเค้าไม่ธรรมดา !

 

แบรนด์ 'ไม่มีแบรนด์' (No Brand) แค่เปิดมาก็งงแล้วหนึ่ง 😅 แต่พอเห็นหน้าค่าตาค่อยคุ้นขึ้นมาหน่อย ก็เค้าเป็นถึงแบรนด์ขนมเกาหลีที่ไม่ว่าใครไปเที่ยวเป็นต้องขนกลับมาทุกที เพราะนอกจากจะถูกและดีแล้ว...ดีกรีก็ไม่ธรรมดาซะด้วย ว่าแล้วเราไปทำความรู้จักแบรนด์ที่ไม่มีแบรนด์เจ้านี้ให้มากขึ้นกันซักหน่อยดีกว่า !

 


 

No Brand แบรนด์ที่ไม่มีแบรนด์...เอ๊ะ ยังไง? 🤔

 

หลายคนอาจจะคุ้นกับแบรนด์ที่ไม่มีแบรนด์จากญี่ปุ่นอย่าง Muji กันมาแล้ว (Muji ก็แปลว่า 'ไม่มีแบรนด์' เหมือนกัน) จะบอกว่าทางฝั่งเกา เค้าก็มีแบรนด์ที่ไม่มีแบรนด์เหมือนกันนะ !

 

สำหรับ No Brand เป็นแบรนด์ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศเกาหลีใต้ โดยที่มาของชื่อนี้...ทางแบรนด์เค้ามีความคิดที่ว่าอยากให้ลูกค้าทุกคนให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้า แทนที่จะโฟกัสที่ชื่อของแบรนด์ (หรือเอาง่าย ๆ คือให้สินค้าขายตัวมันเองได้แม้จะไม่มีชื่อแบรนด์เกร๋ ๆ นั่นแหละ) อย่างแพ็กกง-แพ็กเกจที่ทำออกมาก็เน้นไปที่ความเรียบง่าย ไม่ต้องหรูหรา ซึ่งพอลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ไป ผลพลอยได้ที่ตามมาคือ...การได้สินค้าในราคาถูกลงกว่าเดิม เลยกลายเป็นจุดขายของ No Brand ที่ว่า… 'ขายสินค้าดี ในราคาที่ถูก' นั่นเอง

 


 

 

 

ดีกรีไม่ธรรมดา...เป็นถึงแบรนด์ในเครือร้านค้าปลีกที่ใหญ่สุดในเกาหลี

 

หากใครเคยแวะเวียนไปเที่ยวเกาหลีใต้กันมาแล้ว น่าจะคุ้นเคยกับร้านมินิมาร์ทอย่าง emart24 กันบ้างล่ะ ซึ่งจริง ๆ แล้วจุดเริ่มต้นของ No Brand เค้าก็มาจากการเป็นสินค้าที่วางขายอยู่ในร้าน emart นี้นี่แหละ และเห็นแบบนี้แต่ดีกรีของ emart เค้าไม่ธรรมดาเลยนะ เพราะเค้าเป็นถึงแบรนด์ในเครือ 'ร้านค้าปลีกที่ใหญ่สุดในเกาหลีใต้' อย่าง Shinsegae Group เจ้าของห้าง Lotte, Hyundai, CHICOR และอีกหลายกิจการตัวท็อปในเกาหลีใต้เลย

 

โดย No Brand ได้เข้ามาวางขายในร้าน emart ครั้งแรกในปี 2015 ซึ่งจุดประสงค์ของการวางขายในตอนนั้นคือ เพื่อกระตุ้นยอดขายที่ซบเซาของร้าน โดยใช้จุดเด่นอย่าง...สินค้าดี ราคาถูก มาเป็นตัวแก้เกม หลังจากขายไป ขายมา ยอดขายของ No Brand ก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น จนทางเจ้าของเลยตัดสินใจแยกตัวออกมาเปิดเป็นร้านเดี่ยว ๆ แถมสินค้าที่วางขายภายในร้าน ก็ไม่ได้มีแค่ขนมเกาหลีที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันอย่างเดียว แต่มีทั้งของใช้, อุปกรณ์ทำความสะอาดบ้าน, เครื่องสำอาง, สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก, สินค้าแฟชัน ก็คือมีหมดเลย !

 

และไม่ใช่แค่นั้น...ด้วยความเป็นที่นิยมของแบรนด์ เลยทำให้ถูกซื้อกิจการไปเปิดสาขาในต่างประเทศกันมาแล้วด้วย ที่เห็นตอนนี้ก็จะมีประเทศฟิลิปปินส์ที่ยกเอาร้าน No Brand ไปเปิด (แถมตอนนี้มีมากกว่า 10 สาขาทั่วประเทศในระยะเวลาเพียงแค่ 4 ปี) แต่ในบ้านเราต่อให้จะไม่ได้มาเป็นหน้าร้าน แต่ก็มีขนมหลายตัวของแบรนด์ ที่เห็นวางขายอยู่ในท็อปส์บ้านเรากันแล้วเหมือนกัน

 


 

ถูกและดี...จนขึ้นแท่นเป็นขนมเกาหลีที่ต้องขนกลับ !

 

อย่างที่บอกไปว่าจุดเด่นของ No Brand คือการตั้งราคาขายที่ถูก โดยราคาขายของเค้า ได้กำหนดมาให้มีราคาถูกกว่าที่อื่น ๆ อย่างต่ำ 5% เป็นต้นไป (หรือบางทีก็ถูกกว่านั้น ขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้า) และถ้าพูดถึงสินค้ายอดฮิต ที่เข้าตากรรมการทั้งคนไทยและคนเกาหลีใต้เอง ก็น่าจะหนีไม่พ้น…สารพัดขนมเกาหลี ที่มีให้เลือกหลายอย่างมาก ถ้ายกให้เป็นที่สุดจริง ๆ ก็คงจะเป็น ขนมมันม่วงแผ่น (ที่มีลักษณะคล้ายกับพริงเกิลส์บ้านเรา), คุกกี้ช็อกชิป, บัตเตอร์คุกกี้ รวมไปถึงเชดด้าชีสบอลที่วางขายแบบเป็นถังให้ได้กินกันแบบจุใจ

 

 

โดยเป้าหมายในอนาคตต่อไป No Brand ก็ได้ตั้งเป้าให้ตัวเองมีประสิทธิภาพในการเป็นแบรนด์ 'ไม่มีแบรนด์' ที่แข็งแกร่งเหมือนอย่าง Muji ของประเทศญี่ปุ่น และจากข้อมูลตอนนี้ทาง No Brand ได้มีจำนวนสาขาในเกาหลีมากกว่า 300 สาขาเป็นที่เรียบร้อย แถมยังผุดแบรนด์ย่อย ๆ ของตัวเองออกมาเรื่อย ๆ มีทั้ง No Brand Pizza, No Brand Burger ซึ่งคาดว่าไม่กี่ปีต่อจากนี้... No Brand น่าจะกินส่วนแบ่งตลาดในเกาหลีใต้ จนขึ้นแท่นแบรนด์ที่มีอิทธิพลได้ในที่สุด !

 


 

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ได้ที่นี่

 

 

แหล่งข้อมูลอ้างอิง : https://ppro.onl/yckjhfdh, https://ppro.onl/4hv9nxdd, https://ppro.onl/mvxmdxf6, https://ppro.onl/2p9eax77 และ https://ppro.onl/4y6wrsfz 

  • avatar writer
    โดย imnat
    เสพติดการอ่าน & ดูหนัง ตอนนี้อยู่ในระหว่างการทำตามความฝันให้สำเร็จ :)
แสดงความคิดเห็น